หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ปลูกตะไคร้ ป้อนตลาดทั้งในและต่างประเทศ

ปลูกตะไคร้ ป้อนตลาดทั้งในและต่างประเทศ





ไร่ชมจันทร์...ปลูกตะไคร้ ป้อนตลาดทั้งในและต่างประเทศ
พืชเครื่องเทศที่ไม่ธรรมดา...แค่ส่งออกปีละไม่ต่ำกว่า 100 ตัน

หากพูดถึงตะไคร้ แน่นอนว่าต้องนึกถึง ตะไคร้ ไร่ชมจันทร์ ซึ่งมีการปลูกตะไคร้ส่งบริษัทส่งออกมานานเกือบ 10 ปี คุณอุไรวรรณ แก้วปาน เจ้าของไร่ตะไคร้ชมจันทร์ อดีตพนักงานบริษัทที่ไม่เคยคิดว่าจะได้ก้าวมาสู่อาชีพนี้ เธอเล่าว่า เมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้วญาติที่ทำนามานานจนสภาพดินเสื่อมโทรม ปลูกข้าวก็ไม่ได้ผลดีจึงยอมทิ้งที่ดินแปลงนี้ ด้วยความเสียดายจึงคิดว่าจะหาพืชอะไรมาปลูกดีบนสภาพดินที่เสียขนาดนี้ หลังจากศึกษาข้อมูลแล้วก็มาลงตัวที่ตะไคร้ เธอจึงพลิกที่นายกร่องมาเป็นสวนเพื่อปลูกตะไคร้ 5 ไร่ ทั้งที่ตอนนั้นยังไม่รู้เลยว่าจะเอาไปขายที่ไหน ประมาณเดือนเศษก่อนตะไคร้จะได้ตัดเธอลองไปลงประกาศทางอินเตอร์เน็ตดู โชคเข้าข้างเธออย่างมากเพราะมีบริษัทส่งออกติดต่อเข้ามาเพื่อขอซื้อตะไคร้นำไปบดเป็นผงเพื่อส่งออกไปประเทศแถบยุโรป ตอนนั้นเธอขายตะไคร้ในราคากิโลกรัมละ 6 บาท โดยขายยกทั้งกอเลย เธอเห็นเม็ดเงินจากตะไคร้พืชที่เธอแทบไม่ได้หวังผลตอบแทนมากมายนัก
ปีต่อมาคุณอุไรวรรณขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้นเป็น 15 ไร่ ป้อนให้กับบริษัทเดิมด้วยความมั่นใจในตลาด และลองไปประกาศขายตะไคร้ในอินเตอร์เน็ตเหมือนเดิมเพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่าย แล้วก็มีบริษัทส่งออกติดต่อเข้ามาซื้ออีก คราวนี้ซื้อต้นตะไคร้เพื่อป้อนให้กับร้านอาหารไทยในต่างประเทศ โดยบริษัทมีการประกันราคารับซื้อและขายได้ราคาสูงขึ้น คุณอุไรวรรณเริ่มมองเห็นโอกาสทางการตลาดของตะไคร้พืชที่หลายคนมองว่าธรรมดาเหมือนที่เธอเองก็เคยมองแบบนั้นเช่นกัน
ปีที่ 3 หลังจากมั่นใจในตลาดคุณอุไรวรรณตัดสินลาออกจากงานพร้อมกับลุยตะไคร้เต็มตัว ขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มเป็น 20 ไร่ ปีต่อมานอกจากปลูกเองแล้วก็เริ่มประกาศหาลูกไร่เข้ามาร่วมโครงการกับเธอด้วย โดยจำกัดพื้นที่ในเขตสุพรรณบุรีเป็นหลักเนื่องจากใกล้บ้านและสะดวกในการดูแลและขนส่งตะไคร้ ไร่ชมจันทร์เติบโตและกิจการอย่างต่อเนื่องวันนี้มีพื้นที่ปลูกตะไคร้กว่า 300 ไร่ โดยเป็นพื้นที่ของตัวเองประมาณ 20 ไร่ ส่วนที่เหลือส่งเสริมลูกไร่ปลูกและรับซื้อผลผลิตคืน โดยลูกไร่ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี อยุธยา ลพบุรี ซึ่งคุณอุไรวรรณบอกว่าจะเน้นพื้นที่ปลูกที่ใกล้กับทางไร่เพื่อสะดวกในการดูแลลูกไร่และการขนส่งผลผลิตเข้ามาส่งยังโรงแพ็คของที่ไร่ด้วย ซึ่งปริมาณตะไคร้ในพื้นที่ขนาดนี้จะให้ผลผลิตประมาณ 100 กว่าตัน/ปี สำหรับป้อนตลาดส่งออกที่ทางไร่รับโควต้ามา 
การปลูกตะไคร้ป้อนบริษัทนั้นคุณอุไรวรรณจะไปรับออร์เดอร์มาก่อน จากนั้นก็จะวางแผนการปลูกเพื่อให้มีตะไคร้ป้อนตลาดในช่วงที่ต้องการ ซึ่งผลผลิตตะไคร้ที่นี่ส่วนใหญ่จะป้อนตลาดต่างประเทศซึ่งก็มีทั้งยุโรป เอเชีย อินโด มาเลย์ เกาหลี โดยมีปริมาณการสั่งซื้อมากในช่วงเดือน พ.ย.-เม.ย. ซึ่งมีออเดอร์การส่งช่วงนี้อยู่ประมาณ 5-6 ตัน/สัปดาห์ ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ตะไคร้ราคาสูงเพราะเป็นช่วงที่มีการบริโภคสูง ส่วนช่วงเดือน มิ.ย.-ต.ค.จะเป็นช่สวงที่มีการบริโภคน้อย ต่างประเทศจะไม่ค่อยนิยมทานผักที่มีกลิ่นแรงในช่วงนี้ ปริมาณการส่งก็จะลดลงเหลือประมาณ 2-3 ตัน/สัปดาห์ 
สเปกของตะไคร้ส่งออกจะต้องเป็นตะไคร้ต้นใหญ่ สมบูรณ์ ขาว คอไม่ดำ ไม่มีร่องรอยของโรค-แมลงทำลาย ถ้าเป็นตลาดเอเชีย ความยาวของต้นไม่มีใบจะยาว 12 นิ้ว ขนาดของตะไคร้ใช้ได้ตั้งแต่หัวเล็กถึงหัวใหญ่เปรียบเทียบง่ายๆก็หัวหรือโคนต้นตะไคร้ขนาดตั้งแต่นิ้วก้อยถึงนิ้วโป้งเลย ส่วนตะไคร้โซนยุโรปจะต้องเป็นตะไคร้หัวใหญ่ ความยาวของต้นไม่มีใบจะยาว 12 นิ้วเหมือนกัน แต่ขนาดของตะไคร้จะต้องเป็นขนาดนิ้วโป้งหับนิ้วกลางเท่านั้น ราคาตะไคร้ที่ส่งออกจะค่อนข้างแน่นอน ช่วงราคาถูกก็ 20 กว่าบาท ช่วงราคาแพงก็ 40 กว่าบาท โดยคุณอุไรวรรณจะประกันราคารับซื้อลูกไร่ไว้ที่ 15 บาทขั้นต่ำ ส่วนราคาตะไคร้ในประเทศทั่วไปจะอยู่ที่ 8-9 บาท/กก. ช่วงฝนตะไคร้จะราคาค่อนข้างถูก พอช่วงแล้งตะไคร้ก็จะมีราคาแพง 12-13 บาท/กก. ดังนั้นการปลูกตะไคร้ให้ได้ราคาดีก็ต้องวางแผนการปลูกให้ตะไคร้เก็บเกี่ยวได้ในช่วงราคาแพง
ตะไคร้ที่นิยมปลูกกันทั่วไปจะมี 3 สายพันธุ์ ตะไคร้ที่ชาวสวนนิยมปลูกป้อนตลาดในบ้านเราจะเป็นตะไคร้หยวกกับพันธุ์กาบแดง ซึ่งทั้ง 2 พันธุ์มีข้อดีคือปลูกได้ทั้งปี ต้นใหญ่ แต่อายุเก็บเกี่ยวนาน พันธุ์หยวกใช้เวลา 7 เดือน พันธุ์กาบแดงก็ 6-7 เดือน ผลผลิตประมาณ 2 ตัน/ไร่ ส่วนพันธุ์เกษตรที่คุณอุไรวรรณปลูกนั้นข้อดีคือ เก็บเกี่ยวได้เร็ว 4-5 เดือนก็เก็บเกี่ยวได้แล้ว น้ำหนักดี 3 ตัน/ไร่ เป็นตะไคร้ที่หัวใหญ่ กาบขาว กาบแน่น น้ำหนักดี 
ไร่ชมจันทร์นอกจากปลูกตะไคร้เพื่อป้อนตลาดแล้ว ยังจำหน่ายพันธุ์ตะไคร้ด้วย เป็นต้นพันธุ์ที่มีคุณภาพดี รับประกันตรงตามสายพันธุ์ โดยตะไคร้ที่นำมาทำพันธุ์นี้ก็จะเป็นตะไคร้อายุ 4-5 เดือนซึ่งเหมาะสมสำหรับการทำพันธุ์ โดยที่นี่จะมีแปลงผลิตต้นพันธุ์แยกจากแปลงที่ผลิตต้นขาย ซึ่งนอกจากขายต้นพันธุ์แล้วคุณอุไรวรรณยังให้คำแนะนำวิธีการปลูกรวมไปถึงแนะนำตลาดรับซื้อตะไคร้ให้ด้วย คุณอุไรวรรณบอกว่าตลาดตะไคร้นั้นกว้างมากเพียงแต่เกษตรกรไม่เคยรู้ ตลาดใหญ่ก็คือโรงงานผลิตพริกแกงต่างๆ โรงงานผลิตบะหมี่ซึ่งมีปริมาณการสั่งซื้อเยอะมาก คุณอุไรวรรณเคยไปติดต่อเหมือนกันแต่ไม่สามารถปลูกป้อนให้กับโรงงานได้เนื่องจากกำลังการผลิตไม่เพียงพอ นอกจากนี้ตลาดที่บริโภคต้นสดรวมถึงตลาดแปรรูปเป็นอาหารเพื่อสุขภาพก็มีความต้องการสูงเช่นกัน
สำหรับเทคนิคการปลูกแลดูแลตะไคร้ของไร่ชมจันทร์นั้นคุณอุไรวรรณบอกว่า การปลูกตะไคร้ควรจะยกร่องปลูก ระยะปลูกที่เหมาะสม ใช้ระยะ 70x70 ซม. การปลูกห่างเพื่อให้แปลงโปร่ง ระบายอากาศได้ดี พื้นที่ 1 ไร่ จะใช้ต้นพันธุ์ประมาณ 150 กก. ปลูกหลุมละ 3 ต้น เพราะต้องเผื่อต้นที่ตายไว้ด้วย 1 ไร่ก็ประมาณ 2,000-2,500 หลุม สำหรับการดูแลตะไคร้นั้นคุณอุไรวรรณแนะนำว่า หลังปลูก 1 เดือนเริ่มให้ปุ๋ย พื้นที่ 1 ไร่ ใช้ 25-7-7 อัตรา 10 กก. ผสมปุ๋ยอินทรีย์ 20 กก. เดือนที่ 2 ให้ปุ๋ยสูตรเดิมอัตราเดิม เดือนที่ 3 เปลี่ยนมาใช้สูตร 16-16-16 อัตรา 10 กก.ผสมปุ๋ยอินทรีย์ 20 กก. ส่วนการให้น้ำจะมีทั้งแปลงที่ทำระบบร่องสวนซึ่งก็จะใช้เรือรดน้ำวิ่งเข้าไปในร่องน้ำเหมือนสวนยกร่องทั่วไป ส่วนแปลงพื้นที่ดอนหรือพื้นที่ราบจะติดตั้งระบบสปริงเกลอร์ ให้น้ำทุก 7 วัน ช่วงฝนไม่ต้องให้น้ำเพราะฝนตกอยู่แล้ว ส่วนสารเคมีไม่ได้ใช้เพราะปกติตะไคร้ก็มีศัตรูน้อยอยู่แล้ว
วันนี้นอกจากตะไคร้แล้ว ไร่ชมจันทร์ยังปลูกพืชอีกหลายชนิด เช่น ข่า กระชาย มะกรูดเพื่อป้อนตลาดต่างประเทศด้วยเช่นกัน ซึ่งก็ต่อยอดมาจากการปลูกตะไคร้นั่นเอง ซึ่งพืชเหล่านี้ต่างประเทศก็มีความต้องการสูงเช่นกันโดยเฉพาะใบมะกรูดที่ตลาดมีความต้องการสูงมากและมีแนวโน้มทางการตลาดที่สดใสมากๆ
ตะไคร้ยังคงเป็นพืชที่มีอนาคตทางการตลาดที่ดีและเป็นพืชที่ให้ผลตอบแทนที่ดี การดูแลก็ต่ำ คุณอุไรวรรณมองว่าตลาดตะไคร้มีแต่จะเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆทั้งตลาดบริโภคสดและตลาดเพื่อสุขภาพ จึงเป็นพืชที่น่าจะปลูกเป็นอย่างยิ่ง ใครสนใจจะปลูกก็สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทั้งเรื่องการปลูก ตลาดและต้นพันธุ์

ไร่ชมจันทร์ 27/1 ม.5 ต.สนามชัย อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี โทร.081-0188542


3 ความคิดเห็น:

  1. อยู่อุดร มีพื้นที่และน้ำตลอดปีครับ อยากมีรายได้ต้องดำเนิกการอย่างไรได้บ้างครับ

    ตอบลบ
  2. ปัตตานี จะมีคนรับซื้อไหมคับ
    สนใจปลูก

    ตอบลบ